โรคซิฟิลิส เป็นหนึ่งในโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นโรคอันตราย แถมติดต่อง่ายได้มากเลยทีเดียว นี่จึงทำให้มีข่าวพบผู้ป่วยโรคซิฟิลิสเพิ่มสูงมากขึ้น จนกระทั่งกลับมาระบาดอีกครั้ง โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น ที่มีนิสัยเปลี่ยนคู่นอนอยู่บ่อยครั้ง และมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันตัวเอง โดย โรคซิฟิลิส เป็นโรคที่ติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด , ทวารหนัก หรือแม้แต่ทางปาก และผู้ที่ติดเชื้อมักจะไม่มีเกิดอาการใดๆ ในระยะแรก จึงทำให้สามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้อย่างไม่รู้ตัว
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดนี้ เกิดจากการติดเชื้อ Treponema pallidum ซึ่งมีขนาดเล็กมาก จึงเข้าไปแทรกซึมอาศัยอยู่ได้เกือบทุกส่วนของร่างกาย โดยเชื้อตัวนี้มีรูปร่างเหมือนสว่าน
สำหรับสถิติของโรค นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 เป็นต้นมา มีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง หากแต่ในปัจจุบันกลับมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นรวมทั้งกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน และปลายเดือนเมษายน 2562 ในประเทศไทย ศูนย์กามโรคบางรัก ได้แจ้งข่าวว่า ซิฟิลิสกำลังกลับมาระบาดอีกครั้ง
ติดต่อกันได้อย่างไร
เชื้อ Treponema pallidum ซึ่งเป็นตัวการก่อให้เกิดโรคซิฟิลิส สามารถส่งตรงสืบทอดจากคนไปสู่คน ผ่านการสัมผัสแผลโดยตรง และแผลมักเกิดบริเวณอวัยวะเพศ , ทวารหนัก หรือภายในช่องปาก เพราะฉะนั้น การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด , ทวารหนัก หรือการ Oral SEX กับผู้ป่วยที่มีเชื้อซิฟิลิส ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ทั้งสิ้น
นอกจากนี้เชื้อก็ยังติดต่อได้ด้วยการจูบ หรือสัมผัสแผลในจุดต่างๆ ส่วนคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อนี้ ก็สามารถแพร่เชื้อไปยังทารกในครรภ์ได้อีกด้วย ทำให้ทารกเป็นโรคซิฟิลิสแต่กำเนิด แน่นอนว่าสามารถส่งผลให้ทารกมีความผิดปกติ หรือเสียชีวิตได้ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเชื้อซิฟิลิสไม่ติดต่อผ่านการใช้ข้าวของเครื่องใช้ หรือ การรับประทานอาหารร่วมกัน
อาการของโรคซิฟิลิส
โดยผู้ป่วยโรคมักไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ เพราะอาการของโรคซิฟิลิสจะปรากฏขึ้น ตั้งแต่ 10 วันไปจนถึง 3 เดือนหลังจากได้รับเชื้อ แต่ส่วนใหญ่แล้วเชื้อจะปรากฏ ในช่วง 3 สัปดาห์ ถ้ายังไม่ได้รับการรักษา อาการขั้นที่ 2 ก็จะปรากฏขึ้นมาตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย หลังจากนั้น 2-10 สัปดาห์ ผลริมแข็งระยะที่ 1 ก็จะปรากฏตัวขึ้น
สรุปแล้ว ผู้ติดเชื้อซิฟิลิสจำนวนมากไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ จึงทำให้ไม่ได้รับการรักษาก่อนที่เชื้อจะแสดงอาการ นอกจากนี้ยังแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ง่าย เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยง คุณควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการหาเชื้อซิฟิลิสด้วย ถึงแม้คุณจะยังไม่ได้ปรากฏอาการใดๆ ก็ตาม